ค้นหา

5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮาโกดาเตะ มีตั้งแต่สวนสาธารณะในเมืองไปถึงธรรมชาติที่กว้างใหญ่

[การปรับปรุงครั้งล่าสุด 2024/08/02]

ฤดูใบไม้ร่วงในฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมทรงเสน่ห์ ของกินแสนอร่อย และทิวทัศน์อันงดงาม มาเที่ยวเมื่อใดก็สนุกเพลิดเพลินได้เสมอ โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เมืองทั้งเมืองเต็มไปใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ทั้งสีเหลืองทองอร่ามและสีแดงแสนสดใส มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจมากๆ
ฮาโกดาเตะมีอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วงอยู่ที่ 10℃ ดังนั้นเมื่อมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูนี้ ขอแนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่อุ่นสบายๆ กัน บทความนี้ขอแนะนำ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮาโกดาเตะที่ไม่ควรพลาด มีทั้งห้องชาสุดมีเสน่ห์ตามกลางบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสีแดงสวย ไปจนถึงอาคารทางประวัติศาสตร์ที่โอบล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีแสนสวย

1. สวนโคเซ็ตสึ (Kosetsu Garden)

สวนมิฮาราชิ ่(Miharashi Park) อันกว้างใหญ่บนเนินเขาใกล้กับยุโนกาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen) เป็นที่ตั้งของสวนโคเซ็ตสึ ซึ่งผสานความเป้นญี่ปุ่นดั้งเดิมกับตะวันตกเข้าด้วยกัน ที่นี่เป็นสวนในบ้านพักตากอากาศของพ่อค้าผู้มั่งคั่งกับครอบครัวซึ่งได้รับการออกแบบในช่วงปี 1890 หลังจากเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในปี 1927 ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสวนมรดกชาติด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวในฮอกไกโด
ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ชมแสงหิ่งห้อยในฤดูร้อน และดื่มด่ำกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมทั้งยังมีการจัดงานเทศกาลโมมิ-จี ฮาโกดาเตะ (Hakodate MOMI-G Festa) ขึ้นทุกปีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสามารถชมการประดับไฟไลท์อัพใบไม้เปลี่ยนสีในสวนได้
สวนมิฮาราชิเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้และดอกไม้มากกว่า 150 ชนิดให้ได้ชมกัน นอกจากสวนญี่ปุ่นและห้องน้ำชาที่มีเสน่ห์ ยังมีกรีนเซนเตอร์ (Green Certer) ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนได้ด้วย

2. สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

สวนโกเรียวคาคุเป็นหนึ่งในที่เที่ยวชื่อดังที่สุดของฮาโกดาเตะ เป็นที่เที่ยวสุดฮิต มีรูปทรงดาวอันเป็นเอกลักษณ์และทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเป็นสวนอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่นด้วย
โกเรียวคาคุคือป้อมปราการซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพเอโดะบาคุฟุ (รัฐบาลสมัยเอโดะ) ในช่วงสงครามโบชิน (ปี 1868 – 1869) ก่อนการปฏิรูปสมัยเมจิ ได้รับการออกแบบโดยทาเคดะ อายาซาบุโระ สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ด้วยการสร้างเป็นป้อมปราการรูปดาว ซึ่งมีจุดในการวางอาวุธบนกำแพงมากขึ้นและลดจุดอ่อนลงในการถูกโจมตีด้วย ป้อมปราการนี้ถือเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสงครามโบชิน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลบาคุฟุ และการเปลี่ยนผ่านอำนาจไปสู่รัฐบาลสมัยเมจิ
สวนโกเรียวคาคุเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเมื่อปี 1914 และสร้างความประทับใจอย่างมากแก่ผู้มาเยือนด้วยความงดงามที่ต่างกันในแต่ละฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิที่มีต้นซากุระราว 1,600 ต้นบานสะพรั่ง ฤดูร้อนที่มีแมกไม้เขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงที่มีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงอันงดงาม และฤดูหนาวที่จะได้ชมการประดับไฟอิลูมิเนชั่นกับทิวทัศน์หิมะที่เปล่งประกาย
นักท่องเที่ยวสามารถชมสวนที่สวยงามและพื้นที่ทั้งหมดได้จากหอคอยโกเรียวคาคุ เพลิดเพลินกับดอกไม้ตามฤดูกาล เช่น ดอกสึสึจิ (ดอกอาซาเลีย) ดอกฟูจิ (ดอกวิสทีเรีย) และดอกบัว และเดินเล่นไปตามทางเดินยาว 1,800 เมตรได้ด้วย

3. ฮาโกดาเตะซังโรปเวย์ (Mt. Hakodate Ropeway)

เขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) เป็นที่เที่ยวยอดฮิตที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงมีมนต์เสน่ห์งดงามสุดๆ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการขึ้นภูเขาลูกนี้คือการใช้ Mt. Hakodate Ropeway ที่สามารถชมทิวทัศน์อันงดงามได้รอบทิศแบบ 360 องศาผ่านหน้าต่างกระจก ทั้งทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีของเขาฮาโกดาเตะและเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งได้รับมิชลินกรีนไกด์เจแปน (Michelin Green Guide Japan) 3 ดาวการันตีความงามด้วย กระเช้ากอนโดลา (Gondola) สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 125 คน สามารถชมทิวทัศน์ธรรมชาติและแลนด์มาร์กสุดฮิตอย่างช่องแคบสึการุ (Tsugaru Strait) และอ่าวของฮาโกดาเตะที่ส่องประกายระยิบระยับ
ผู้ที่อยากไปเส้นทางที่ท้าทายกว่านี้ สามารถขึ้นเขาด้วยเส้นทางขึ้นเขามิยาโนะโมริ (Miya no Mori Course) จากศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังกู (Hakodate Hachimangu Shrine) ได้ ซึ่งเป็นเส้นทางแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินป่าปีนเขาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามในฤดูใบไม้ร่วง
ถ้าจะใช้บริการฮาโกดาเตะโรปเวย์ ให้นั่งรถโรปเวย์ชัตเตอร์บัส จากสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate) ไปลงป้ายโรปเวย์มาเอะ (Ropeway-mae) ใช้เวลาราว 15 นาที

4. สวนโมโตมาจิ (Motomachi Park)

สวนโมโตมาจิเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการชื่นชมความงามของธรรมชาติในแต่ละฤดูกาล และเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์ของฮาโกดาเตะไปพร้อมกัน บริเวณนี้ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมตะวันตกที่สดใสเต็มไปด้วยสีสัน มีหลายทฤษฎีกล่าวถึงที่มาของชื่อ ‘ฮาโกดาเตะ’ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสวนแห่งนี้ ทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดกล่าวว่า ในช่วงสมัยมุโรมาจิ (ศตวรรษที่ 14 – 16) โคโนะ มาซามิจิซึ่งมาจากสึการุ กับทาเคดะ โนบุฮิโระซึ่งต่อมากลายเป็นเจ้าเมืองคนแรกของแคว้นมัตสึมาเอะ ได้สร้างคฤหาสน์ทรงกล่อง (箱型の館 Hakogata no Tate) บนลานกว้างในสวนโมโตมาจิใกล้กับอนุสาวรีย์ที่รำลึกการมาเยือนของพลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รี (Memorial of Commodore Perry’s Visit) ดังนั้นจึงตั้งชื่อพื้นที่นี้ว่า ฮาโกดาเตะ (箱館 Hakodate)
ในสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) ฮาโกดาเตะได้จัดตั้งฮาโกดาเตะบุเกียวโช (สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ) ขึ้น จากนั้นได้มีการสร้างอาคารต่างๆ อย่างอาคารเก่าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโดสาขาฮาโกดาเตะ (Old Hakodate Branch Office of Hokkaido Government) ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการบริหารปกครองฮาโกดาเตะมาโดยตลอด ปัจจุบัน อาคารหลายหลังในบริเวณสวนโมโตมาชิเปิดให้บริการเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร ทำให้ที่นี่เหมาะมาพักผ่อนหย่อนใจในโอกาสที่มาเดินเที่ยวที่ฮาโกดาเตะแห่งนี้
ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในสวนจะมีเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ที่แห่งนี้เหมาะกับการมาถ่ายรูปอันงดงามของอาคารที่รายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี

5. เขื่อนซาซานากาเระ (Sasanagare Dam)

เขื่อนซาซานากาเระสร้างเมื่อปี 1923 เป็นเขื่อนค้ำยันแห่งแรกของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวิศวกรรมโยธาโดยสมาคมวิศวกรโยธาแห่งญี่ปุ่น (JSCE)
ด้านหน้าเขื่อนซาซานากาเระมีลานสวนด้านหน้าที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ในฤดูใบไม้ร่วงต้นเมเปิลกว่า 100 ต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงาม ส่วนในฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระจะบานสะพรั่ง ลานกว้างนี้จึงเป็นสถานที่สุดฮิตที่ชาวเมืองมักมาเดินเล่นและปิกนิกกัน ขอแนะนำให้ขึ้นไปที่ตัวเขื่อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามแผ่กว้างบนลานสวนด้านหน้าเบื้องล่างกัน
เขื่อนซาซานากาเระสามารถนั่งรถบัสจากสถานีฮาโกดาเตะแล้วเดินต่อหน่อย ใช้เวลารวมราว 50 นาที หรือจะนั่งรถบัสจากโกเรียวคาคุแล้วเดินต่ออีกนิด ใช้เวลารวมราว 1 ชั่วโมงก็ได้

ไปเพลิดเพลินกับสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงในฮาโกดาเตะกัน

ฮาโกดาเตะมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลาย ตั้งแต่สวนญี่ปุ่น สวนสาธารณะในเมือง ไปจนถึงจุดท่องเที่ยวลับท่ามกลางธรรมชาติที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก หากมีโอกาสมาเยือนฮาโกดาเตะ เวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีคือช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนะ