ค้นหา

Seasons

Seasons

เพลิดเพลินกับแต่ละฤดูกาลในฮาโกดาเตะ (Hakodate) ชมทิวทัศน์สวย เที่ยวงานเทศกาล และลิ้มรสอาหารเลิศรสตามฤดูกาลกัน

นักท่องเที่ยวต่างชาติมากมายที่มาเยือนญี่ปุ่นต่างสงสัยว่าช่วงไหนคือเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนฮาโกดาเตะ ฮาโกดาเตะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด มีสภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่นเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ของฮอกไกโด ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวที่สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี! บทความนี้ขอแนะนำสถานที่เที่ยวในฮาโกดาเตะที่สามารถเพลิดเพลินได้ทุกฤดูกาล รวมถึงสถานที่เที่ยวลับที่มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้จัก ซึ่งมีทั้งงานเทศกาลและอาหารเลิศรสต่างๆ ตามฤดูกาล ลองใช้บทความนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อเพลิดเพลินกับการเที่ยวในฮาโกดาเตะแบบจุใจกัน

เสน่ห์ของฮาโกดาเตะในฤดูใบไม้ผลิ มีทั้งดอกซากุระ ดอกโครคัส และดอกสึสึจิ

ฤดูใบไม้ผลิในฮาโกดาเตะเป็นช่วงต้นมีนาคมถึงปลายพฤษภาคม เมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคม หิมะเริ่มละลาย ต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้เล็กๆ ต่างฟันฝ่าความหนาวเย็นบางๆ เพื่อผลบาน ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระและดอกสึสึจิ (ดอกอาซาเลียหรือดอกชวนชม) จะบานสะพรั่งที่สวนฤดูใบไม้ผลิในช่วงปลายเมษายนถึงพฤษภาคม โดยเฉพาะดอกสึสึจิที่บานสะพรั่งสวยงามบนเขาเอซัง (Mt. Esan) เป็นทิวทัศน์งดงามแห่งฤดูกาลนี้

ชมดอกซากุระที่สวนโกเรียวคาคุและสวนฮาโกดาเตะ

ดอกซากุระของฮาโกดาเตะมักจะบานในช่วงปลายเมษายนและบานเต็มที่ในต้นพฤษภาคม ลักษณะเด่นคือเริ่มบานช้ากว่าในเกาะฮอนชูและเกาะอื่นๆ เล็กน้อย เมื่อพูดถึงจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในฮาโกดาเตะก็ต้องเป็นสวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park) และสวนฮาโกดาเตะ (Hakodate Park) ต้นซากุระหลายร้อยต้นจะผลิดอกบานสะพรั่งกลายเป็นอุโมงค์สีชมพู นอกจากนี้ยังสามารถชมโกเรียวคาคุ (Goryokaku) รูปดาวที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้จากจุดชมวิวบนหอคอยโกเรียวคาคุ (Goryokaku Tower)

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานเทศกาลดอกซากุระที่สวนฮาโกดาเตะในฤดูใบไม้ผลิ ที่ยังจะได้เพลิดเพลินกับร้านแผงลอยที่ให้บริการอาหารท้องถิ่นรสเลิศกลางแจ้ง สำหรับไฮไลต์ของฤดูกาลนี้ที่ห้ามพลาดเลยก็คือขนมหวานรสซากุระซึ่งจำหน่ายที่ร้านและคาเฟ่ในเมือง อย่าลืมลองชิมซอฟต์ครีมรสซากุระซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะฤดูกาลนี้ที่หอคอยโกเรียวคาคุกันะ

ยามค่ำคืนดอกซากุระที่สวนโกเรียวคาคุและสวนฮาโกดาเตะจะได้รับการประดับไฟไลต์อัพ ดอกซากุระยามค่ำคืนที่งดงามเหมือนฝันนั้นช่างมีมนต์เสน่ห์ยิ่งนัก

ดอกโครคัสสุดน่ารักที่บานสะพรั่งในสวนของโรงเรียนสตรีอิไอ (IAI Girls Academy)

ในญี่ปุ่นมีสถานที่ไม่กี่แห่ง ที่สามารถชมดอกโครคัส (Crocus) สีสันสดใสได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ฮาโกดาเตะเมืองท่าที่เชื่อมต่อโลกแห่งนี้เป็นเพียงแห่งเดียวที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่บอบบางและหายากเหล่านี้ได้

อาคารไวท์เฮาส์ในพื้นที่ของโรงเรียนสตรีอิไอเคยเป็นที่พักของมิชชันนารี สวนของอาคารแห่งนี้ปลูกต้นโครคัสที่มีดอกสีขาวและสีม่วงหลายพันต้น ดอกโครคัสจะเริ่มบานในช่วงปลายเมษายนและบานเต็มที่ในต้นพฤษภาคม สามารถเข้าชมได้ในวันธรรมดาและวันเสาร์ เวลา 9:00 – 15:00 น. โดยกรอกแบบฟอร์มเข้าชมที่ทางเข้า ดังนั้น กรุณาตรวจสอบก่อนแวะไป เนื่องจากที่นี่เป็นสถานศึกษา ขอความกรุณารักษามารยาทในการเข้าชมด้วย

สวนสึสึจิเอซัง (Esan Tsutsuji Park)

ดอกสึสึจิที่บานสะพรั่งสวยงามบนเขาเอซันเป็นทิวทัศน์ยอดเยี่ยมที่สุดของฮาโกดาเตะในฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมดอกสึสึจิสีแดงและสีชมพูสดใสนับพันบานสะพรั่งในช่วงกลางถึงปลายพฤษภาคม มาดื่มด่ำกับความงดงามแห่งสีสันที่น่าตะลึงของเนินดอกสึสึจิที่มีทะเลสีครามเป็นฉากหลัง และถ่ายรูปสวยๆ กัน

อุณหภูมิในเขาเอซันค่อนข้างต่ำกว่าในเมือง ช่วงที่ดอกสึสึจิบานอุณหภูมิในตอนกลางวันจะอยู่ที่ราว 10°C ดังนั้น กรุณาสวมเครื่องแต่งกายให้เหมาะกับสภาพอากาศ มีที่จอดรถรถยนต์และรถบัสใกล้ทางเข้าสวน ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าต้องปีนเขาขึ้นไป

ฮาโกดาเตะในฤดูร้อนแห่งเทศกาล

เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น ฤดูร้อนในฮาโกดาเตะเป็นช่วงแห่งว่รเทศกาลและกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูร้อนจะเริ่มในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม อุณหภูมิไม่ค่อยสูงเกิน 30°C ทำให้สามารถออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านได้สบายๆ ขอแนะนำงานเทศกาลและสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด

เทศกาลท่าเรือฮาโกดาเตะ

เทศกาลท่าเรือฮาโกดาเตะ (Hakodate Port Festival) จัดขึ้นในวันที่ 1 ถึง 5 สิงหาคมของทุกปี เป็นการเฉลิมฉลองของฮาโกดาเตะซึ่งเป็นท่าเรือระหว่างประเทศที่สำคัญในประวัติศาสตร์ คืนแรกจะมีการแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตาในบริเวณอ่าว ช่างทำดอกไม้ไฟที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่นจะมาประชันฝีมือกัน การแสดงแสงสีของดอกไม้ไฟที่สะท้อนความงามบนผิวน้ำเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง

ไฮไลต์ของวันที่ 2 คือขบวนพาเหรดซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากถึง 20,000 คนแต่งชุดญี่ปุนแบบดั้งเดิมและเต้นรำกัน โดยเฉพาะการเต้นระบำต่างๆ เช่น ระบำโยซาโคย (Yosakoi Odori), ระบำท่าเรือฮาโกดาเตะ, ระบำปลาหมึกที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของฮาโกดาเตะ นอกจากนี้ ยังสามารถชิมอาหารรสเลิศในท้องถิ่นได้ที่ร้านแผงลอยรอบๆ สถานที่จัดงาน

เทศกาลดอกไม้ไฟยุโนะคาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นช่วงวันที่ 10 สิงหาคมของทุกปีที่ยุโนะคาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen) รีสอร์ตน้ำพุร้อนสำคัญของฮาโกดาเตะ เป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ในฤดูร้อนงานหนึ่งของญี่ปุ่น เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดยุโนะคาวะออนเซ็นครบรอบ 300 ปี และเป็นการแสดงความขอบคุณต่อน้ำพุร้อนด้วย

มีการจุดดอกไม้ไฟที่ปากแม่น้ำ แสงไฟหลากสีสันสะท้อนบนผิวน้ำที่เหมือนกระจกบานใหญ่ ทำให้เมืองแห่งน้ำพุร้อนอบอวลไปด้วยบรรยากาศมหัศจรรย์ราวกับต้องมนต์ หากสามารถจัดตารางเวลาให้เข้ากับงานเทศกาลนี้ได้ อย่าพลาดไปชมความงามกัน

นัตสึโมเดะที่ศาลเจ้ายูคุระ

ศาลเจ้ายูคุระ (Yukura Shrine) สักการะเทพผู้พิทักษ์ยุโนะคาวะออนเซ็น ชาวเมืองฮาโกดาเตะมีประเพณีการไปศาลเจ้าเพื่อสักการะขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงและโชคดีในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเรียกกันว่า นัตสึโมเดะ (Natsumoude)

นัตสึโมเดะจะอยู่ในช่วงวันที่ 30 มิถุนายนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมเป็นประจำทุกปี ศาลเจ้ายูคุระและศาลเจ้าอื่นๆ ในฮาโกดาเตะจะประดับประดาด้วยกระดิ่งลมและฮานะโจซุ (การลอยดอกไม้ในโจซุยะซึ่งเป็นบ่อน้ำสำหรับล้างมือและชำระจิตใจ) ที่สวยงาม ซึ่งเหมาะกับการถ่ายรูปเยี่ยมๆ ดังนั้น ลองแวะมาเที่ยวในช่วงนัตสึโมเดะกัน

ปีนเขาฮาโกดาเตะ

กิจกรรมฤดูร้อนที่สนุกสนานที่สุดอย่างหนึ่งคือการปีนเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) ที่สูง 334 เมตร ซึ่งไม่สูงเกินไปและมีความลาดชันเล็กน้อยทำให้ง่ายต่อการปีน มีเส้นทางเดินป่าปีนเขาหลายเส้นที่มีระยะทางต่างกัน ซึ่งสามารถชมสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ต่างๆ ที่เติบโตบนเขาฮาโกดาเตะได้ เส้นทางยอดนิยมที่สุดคือเส้นทางสึสึจิยามะ (Tsutsujiyama Trail) ยาว 1,640 เมตร ใช้เวลาราว 50 นาที

ก่อนอื่นอย่าลืมแวะที่ศูนย์ข้อมูลเขาฮาโกดาเตะเพื่อรับแผนที่และข้อมูลเส้นทางบนภูเขากันนะ ในฤดูร้อน กรุณาสวมรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย แต่กรณีวางแผนไปในฤดูอื่นให้สวมรองเท้าบู๊ตและเสื้อผ้าป้องกันความหนาวเย็นที่เหมาะสม

ฮาโกดาเตะในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมากที่สุด มีโมมิจิการิหรือเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังที่สนุกสนานรื่นนมย์ ใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วงช่างงดงามน่าทึ่งจริงๆ ฮาโกดาเตะก็เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นที่สามารถเพลิดเพลินกับความงามตามธรรมชาตินี้ได้

เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนโคเซ็ตสึ

สวนโคเซ็ตสึ (Kosetsu Garden) ในฮาโกดาเตะเป็นจุดท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีจะเปลี่ยนให้บริเวณรอบๆ กลายเป็นเหมือนทะเลสีแดงและสีทอง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนมิฮาราชิ ่(Miharashi Park) เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีความงดงามเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

ช่วงปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายน จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิ-จี ฮาโกดาเตะ (Hakodate MOMI-G Festa) งานประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสีทุกคืนในเวลา 16:00 – 21:00 น. ในช่วงเวลานี้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่สดใสราวกับอยู่ในโลกอื่น ควบคู่กับบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในสวน

ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงในอุทยานแห่งชาติโอนุมะ

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park) อยู่ไม่ไกลจากเมืองฮาโกดาเตะ เป็นพื้นที่กว้างขวางที่มีธรรมชาติงดงามอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีภูเขาไฟโคมากาทาเกะ (Mt. Komagatake) ชื่อดัง และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ที่น่าประทับใจเป็นพิเศษคือภาพสะท้อนของใบไม้เปลี่ยนสีสีแดงสดในทะเลสาบโอนุมะ (Lake Onuma) และทะเลสาบโคนุมะ (Lake Konuma) ในสวนสาธารณะยังมีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น เดินเขา ขี่จักรยาน และพายเรือแคนู กล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่อยากลืมชีวิตประจำวันอันวุ่นวายไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ

ฤดูใบไม้ร่วงบนเขาเอซัน

เขาเอซันที่ยิ่งใหญ่อลังการเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ดังนั้น จึงมักเห็นภูเขาสูง 618 เมตรลูกนี้ปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้า พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งของพืชและสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีคุณค่ายิ่งอาศัยอยู่ ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาเหมาะที่สุดสำหรับการเที่ยวชมสถานที่อันงดงามน่าทึ่งแห่งนี้

ต้นไม้ที่เชิงภูเขาไฟจะมีสีแดงสดเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์จากทางเดินขึ้นเขาและจุดชมวิวได้

ฮาโกดาเตะในฤดูหนาว งานประดับไฟอิลูมิเนชั่นที่งดงามน่าประทับใจ

ฤดูหนาวในฮาโกดาเตะเป็นฤดูกาลแห่งเวทย์มนต์จริงๆ หิมะที่ปกคลุมเมือง ทำให้เมืองกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว หิมะสีขาวระยิบระยับตัดกับแสงสีนับไม่ถ้วนที่ประดับตกแต่งฮาโกดาเตะนั้นช่างงดงามน่าประทับใจยิ่ง มีการจัดเทศกาลคริสต์มาสและงานประดับไฟอิลูมิเนชั่นขึ้นทุกปี ต่อไปขอแนะนำจุดท่องเที่ยวที่สามารถชมทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีเฉพาะในฤดูหนาวกัน

งานมหัศจรรย์คริสต์มาสฮาโกดาเตะในบริเวณอ่าว

งานมหัศจรรย์คริสต์มาสฮาโกดาเตะ (Hakodate Christmas Fantasy) งานยอดนิยมซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณอ่าวช่วงวันที่ 1 ถึง 25 ธันวาคม ต้นคริสต์มาสอันใหญ่โตวางอยู่บนโป๊ะในอ่าว ทุกคืนมีการประดับไฟมากกว่า 50,000 ดวง มีการประดับไฟโกดังอิฐแดงย้อนยุคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เช่นกัน ยามค่ำคืนยังมีการจุดดอกไม้ไฟ และมีร้านซุปบาร์หลายร้านเปิดให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ลองไปเพลิดเพลินกับค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและทำร่างกายให้อบอุ่นด้วยซุปที่ซื้อมาจากร้านเหล่านี้กัน รับรองว่าจะเป็นคริสต์มาสที่น่าจดจำอย่างแน่นอน

หลังงานมหัศจรรย์คริสต์มาสฮาโกดาเตะสิ้นสุดลง ยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามดั่งภาพวาดของโกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ถนนและอาคารหลายแห่งจะมีการประดับไฟไลต์อัพสว่างไสวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนินฮาจิมังซากะ (Hachiman-Zaka Slope) และเนินนิจูคเค็นซากะ (Nijukkenzaka Slope) จะมีการจัดงานประดับไฟอิเนมูเลชั่นในฤดูหนาวเช่นกัน สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามระยิบระยับเหมือนฝันของอ่าวได่

งานการประดับไฟป้อมปราการรูปดาวในโกะเรียวคะขุ (The star illumination of Goryokaku)

โกเรียวคาคุ (Goryokaku) ป้อมรูปดาวที่โดดเด่นของฮาโกดาเตะ เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวงดงามที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยเฉพาะในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ บริเวณโดยรอบป้อมจะมีการประดับไฟทุกคืน ป้อมรูปดาวจะส่องประกายแสงสีเหลืองนวลตาตัดกับหิมะสีขาวระยิบระยับเป็นความงามน่าประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

สามารถเพลิดเพลินกับงานประดับไฟอิลูมิเนชั่นที่งดงามเหมือนฝันของโกเรียวคาคุจากหอคอยโกเรียวคาคุที่อยู่ติดกันได้ในเวลา 17:00 – 20:00 น.

ไปดูน้องลิงแช่น้ำพุร้อนที่ยุโนะคาวะออนเซ็นกัน

หนึ่งในภาพทิวทัศน์ฤดูหนาวชื่อดังที่หายากคือภาพเหล่าลิงน้อยที่แช่ในบ่อน้ำพุร้อน ลิงแสมญี่ปุ่นราว 100 ตัวอาศัยอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate City Tropical Botanical Garden) ในยุโนะคาวะออนเซ็น ลิงแสมญี่ปุ่นชอบน้ำพุร้อนเหมือนมนุษย์ ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว พวกมันจึงมักแช่น้ำพุร้อน ไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายความเครียดและชมภาพน้องลิงน้ำพุร้อนกัน

ยุโนะคาวะออนเซ็นใช้เวลานั่งรถรางจากสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate) ราว 30 นาที

ไปเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของฮาโกดาเตะในแต่ละฤดูกาลกัน

ได้ทราบถึงไฮไลต์ของฮาโกดาเตะในแต่ละฤดูกาลกันไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองจากจุดชมวิวบนเขาฮาโกดาเตะนั้นยอดเยี่ยมตลอดทั้งปีเลย ในฤดูหนาวมีทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ส่วนฤดูอื่นๆ จะสว่างไสวไปด้วยแสงสีที่สวยงาม

แน่นอนว่า สุดยอดเสน่ห์ของการเที่ยวฮาโกดาเตะก็คือทิวทัศน์ที่สวยงามของฮาโกดาเตะ แต่อย่าลืมลิ้มลองรสชาติของอาหารตามฤดูกาลและอาหารขึ้นชื่อของฤดูกาลนั้นๆ นะ ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา ดังนั้น อย่าพลาดไปชมงานเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นในช่วงที่ไปด้วยล่ะ ไปเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสุดพิเศษในฮาโกดาเตะให้จุใจ พร้อมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองท่าประวัติศาสตร์กัน