ค้นหา

Culture

Culture

5 ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่น่าจดจำ ไปค้นพบเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮอกไกโดกัน

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจ ตั้งแต่ยุคโจมง วัฒนธรรมของชาวไอนุ การชมดอกซากุระ ไปจนถึงพิธีชงชา บทความครั้งนี้ขอแนะนำ 5 สถานที่ซึ่งสามารถสัมผัสกับเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมของฮาโกดาเตะ

1. สัมผัสเสน่ห์ของมรดกทางวัฒนธรรมในฮาโกดาเตะ รู้จักญี่ปุ่นในยุคโจมงกัน

ยุคโจมงถือเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในราว 14,000 ปีก่อนคริสตกาลถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล อารยธรรมยุคโจมงซึ่งมีวัฒนธรรมระดับสูงและซับซ้อนเจริญรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักจากการค้นพบเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผาที่มีลักษณะพิเศษคือมีลวดลายที่เกิดจากการกดเชือก

อิทธิพลของอารยธรรมยุคโจมงแผ่กระจายไปทั่วญี่ปุ่น แต่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ทางเหนือเป็นพิเศษ เมืองฮาโกดาเตะมีโบราณสถานยุคโจมงที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น 2 แห่ง ได้แก่ โบราณสถานคาคิโนะชิมะ (Kakinoshima Site) และโบราณสถานโอฟุเน (Ofune Site) ทั้ง 2 แห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) และเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์

โบราณสถานคาคิโนะชิมะเป็นหมู่บ้านโจมงอายุราว 9,000 ถึง 3,000 ปีก่อน และเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่โดดเด่นที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนโบราณสถานโอฟุเนะเป็นโบราณสถานอายุราว 4,000 ถึง 5,500 ปีก่อน อยู่ห่างจากโบราณสถานคาคิโนะชิมะแค่ 10 นาทีโดยรถยนต์ มีการพบซากที่อยู่อาศัยจำนวนมากที่โบราณสถานแห่งนี้

ศูนย์วัฒนธรรมโจมงฮาโกดาเตะ (Hakodate Jomon Culture Center) ที่อยู่ถัดจากโบราณสถานคาคิโนะชิมะ เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการชื่นชมเครื่องปั้นดินเผาโจมงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับยุคโจมงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่นี่จัดแสดงงานหัตถกรรมยุคโจมงที่น่าทึ่งจำนวนมาก อย่างจูคูโดกู (รูปปั้นดินเหนียวด้านในกลวง) สมบัติชาติเพียงหนึ่งเดียวของฮอกไกโด เป็นวัตถุโบราณที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งขุดพบในโบราณสถาน นอกจากนี้ ยังจะสัมผัสได้ถึงความงดงามที่น่าทึ่งของงานหัตถกรรมยุคโจมงอื่นๆ เช่น เครื่องปั้นดินเผาเคลือบสีแดงชาดและโดบัง (แผ่นกระดานดินเหนียว) ที่มีรอยเท้าเด็ก

นอกจากนี้ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ยังมีกิจกรรมที่สามารถสัมผัสประสบการณ์การประดิษฐ์สิ่งของเช่นเดียวกับในยุคโจมง สามารถสนุกกับการสร้างสรรค์งานฝีมือที่ไม่เหมือนใคร เช่น การทำมากาทามะ (ลูกปัดรูปลูกน้ำ) ที่ใช้เป็นเครื่องประดับและจี้มากาทามะ การถักผ้าอังกิงหลากสีสันโดยใช้เส้นใยพืชและเทคนิคการถักแบบโบราณ และการทำเครื่องปั้นดินเผา
* กิจกรรมทำเครื่องปั้นดินเผาปิดให้บริการชั่วคราว

2. เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในป้อมปราการรูปดาว สัญลักษณ์ของโกเรียวคาคุ

หลังสมัยปิดประเทศของญี่ปุ่นที่ยาวนานตั้งแต่ปี 1603 ถึง 1868 ท่าเรือฮาโกดาเตะ (Hakodate port) หนึ่งในท่าเรือที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นได้เปิดการค้ากับต่างประเทศ บาคุฟุ (รัฐบาลทหาร) จึงส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสไปยังฮาโกดาเตะ เพื่อจัดการเจรจากับต่างชาติ มีส่วนร่วมในการบริหาร และปกป้องพื้นที่หากจำเป็น

โกเรียวคาคุ (Goryokaku) ป้อมปราการรูปดาวที่มีเอกลักษณ์นี้ สร้างขึ้นเมื่อราว 150 ปีก่อนในรูปแบบที่คล้ายป้อมปราการของยุโรปในสมัยนั้น เพื่อป้องกันการโจมตีจากอาวุธต่างๆ เช่น ปืนและปืนใหญ่

ใจกลางป้อมปราการรูปดาวคือฮาโกดาเตะบุเกียวโช (สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ) อาคารที่บุเกียวนิน (ผู้พิพากษาซามูไร) ระดับสูงเคยพำนักอยู่ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ อาคารนี้สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมซึ่งโดดเด่นด้วยงานไม้อันประณีตและห้องเสื่อทาทามิที่กว้างขวาง อาคารนี้สามารถเข้าชมได้

ป้อมปราการแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายแห่งการปราชัยในสงครามของโทคุกาวะบาคุฟุผู้กุมอำนาจในญี่ปุ่นมานานกว่า 260 ปี กองทัพโทคุกาวะใช้โกเรียวคาคุเป็นฐานที่มั่น แต่ความพ่ายแพ้ของรัฐบาลเมจิในสงครามฮาโกดาเตะเมื่อปี 1869 ได้นำญี่ปุ่นไปสู่ยุคสมัยใหม่

ที่นี่สามารถชื่นชมประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมในสมัยนั้น นอกจากนี้ จุดชมวิวของหอคอยโกเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) ซึ่งมองเห็นป้อมปราการรูปดาวก็เป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากชอบถ่ายรูป

3. เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวไอนุ ชนพื้นเมืองของฮอกไกโด

ชาวไอนุเป็นชนพื้นเมืองทางเหนือของหมู่เกาะญี่ปุ่นโดยมีเกาะฮอกไกโดเป็นศูนย์กลาง และยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกบนเกาะฮอกไกโด ชาวไอนุมีเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมที่ปราณีต ดนตรีและการเต้นรำที่สวยงามและเร้าใจ เทคนิคทางสถาปัตยกรรมและภาษาของตัวเอง

พิพิธภัณฑ์ชาวเหนือแห่งเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate City Museum of Northern Peoples) เป็นสถานที่เที่ยวซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวไอนุให้ลึกซึ้ง ที่นี่สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวไอนุ พร้อมกับชมเครื่องแต่งกายที่สวยงามและของใช้ในชีวิตประจำวันของชาวไอนุ

สามารถสัมผัสวัฒนธรรมของชาวไอนุให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยการเรียนรู้ความงดงามของลวดลายพื้นบ้านของชาวไอนุผ่านการทำเปเปอร์คราฟ (งานฝีมือจากการตัดกระดาษ) รวมทั้งการทำและเล่นมุคคุริ (พิณปาก) เครื่องดนตรีดั้งเดิมที่มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์

4.ชิมชาญี่ปุ่นชั้นเลิศ

พิธีชงชาที่เสิร์ฟชาญี่ปุ่นคุณภาพสูงแก่แขก เป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก พิธีชงชายังเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งสืบทอดกันนานหลายศตวรรษ

ที่ร้านโอฉะโนะคุระ (Ochanokura) ซึ่งบริหารโดยร้านจําหน่ายใบชามารุยามะเอ็น (Maruyama-en) เป็นร้านชาที่จะได้สัมผัสกับพิธีชงชาอย่างแท้จริง ในระหว่างที่ร่วมในพิธีชงชานี้ จะได้เรียนรู้วิธีการชงชาและการเสิร์ฟชาแก่แขก รวมทั้งได้ชิมชาเขียวมัทฉะชื่อดังพร้อมขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เป็นกิจกรรมแนะนำซึ่งจะได้สัมผัสกับประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นอีกทางหนึ่ง

5. ชมซากุระ เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอัน

ญี่ปุ่นโด่งดังในฐานะประเทศที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งสวยงาม ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ฮาโกดาเตะจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์ดอกซากุระสีชมพูและสีขาวที่สวยงาม

การชมดอกซากุระเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุด ผู้คนจะเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ด้วยการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่ม ท่ามกลางดอกไม้สีชมพูและสีขาวที่งดงามบอบบาง

จุดชมซากุระแนะนำในฮาโกดาเตะ 2 แห่ง คือสวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park) และสวนฮาโกดาเตะ (Hakodate Park) ทั้งสองแห่งมีต้นซากุระเรียงเป็นทิวแถวสวยงาม และเป็นจุดชมซากุระยอดฮิตที่คนในท้องถิ่นมาชมกัน

ต้นซากุระราว 1,600 ต้นเรียงรายตามคูน้ำรูปดาว และหอคอยโกเรียวคาคุซึ่งมองเห็นทิวทัศน์นี้เป็นจุดถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยมที่สุด นอกจากนี้ ขอแนะนำให้นั่งเรือพายชื่นชมทิวทัศน์ของดอกซากุระอันงดงามกันด้วย

การชมดอกซากุระไม่ได้มีแค่ตอนกลางวัน ขอแนะนำให้มาเพลิดเพลินกับดอกซากุระในยามค่ำคืนด้วย แสงไฟไลท์อัพที่ฉายส่องดอกไม้สีขาวให้เป็นประกายตัดกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดนั้น ดูมีมนต์ขลังงดงามราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง

สัมผัสวัฒนธรรมและประเพณีของญี่ปุ่นในฮาโกดาเตะ

ฮาโกดาเตะซึ่งสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันหลากหลาย เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนต่างๆ ให้มาเยือน สำหรับท่านที่ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวไอนุและอยากสัมผัสกับพิธีชงชาของญี่ปุ่น การเที่ยวฮาโกดาเตะจะเป็นประสบการณ์ที่ยากลืมเลือนอย่างแน่นอน