ถ้ามาฮาโกดาเตะแล้วไม่ได้นั่งรถราง ก็เหมือนมาไม่ถึง ดังนั้น ไปนั่งรถรางเที่ยวฮาโกดาเตะกัน

ผู้เขียนได้ทำเครื่องหมายที่เที่ยวซึ่งแนะนำในครั้งนี้ไว้บนแผนที่เส้นทางแล้ว (ขยายแผนที่เส้นทาง)

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที จะไม่ไปเที่ยวเมืองออนเซ็นชื่อดังคงไม่ได้ หากได้นอนแช่ออนเซ็นสักหน่อย คงช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าได้ดีทีเดียว
ยุโนกาวะออนเซ็นเป็นหนึ่งในออนเซ็นรีสอร์ตชื่อดังของฮาโกดาเตะ และเป็น 1 ใน 3 เมืองออนเซ็นชื่อดังของฮอกไกโด ใช้เวลาขับรถจากสนามบินฮาโกดาเตะ (Hakodate Airport) มาพื้นที่ยุโนกาวะออนเซ็นเพียง 5 นาที และใช้เวลาขับรถจากป้ายรถราง Yunokawa Onsen มาราว 10 นาที ทำให้ที่นี่เป็นออนเซ็นที่ใกล้สนามบินที่สุดในญี่ปุ่น
เมื่อเดินทางมาฮาโกดาเตะด้วยเที่ยวบินตรงหรือเที่ยวบินภายในประเทศจะสะดวกมาก พักคืนแรกที่นี่แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยนั่งรถรางจากป้ายที่ใกล้ที่สุดคือป้าย Yunokawa หรือ Yunokawa Onsen ไปเที่ยวชมในเมืองฮาโกดาเตะ
หากพักที่เรียวกังเก่าแก่ในยุโนกาวะออนเซ็น จะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ส่วนการพักในโรงแรมสมัยใหม่ที่มีสไตล์พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลก็แนะนำด้วยเช่นกัน
ในยุโนกาวะออนเซ็นมีเรียวกังและโรงแรมหลายแห่งที่มีบริการห้องอาบน้ำแบบไปเช้าเย็นกลับ ดังนั้นจึงสามารถแช่ออนเซ็นสบายๆ และใช้เวลาผ่อนคลายสุดยอดเยี่ยมได้

โกเรียวคาคุ (Goryokaku) สถานที่พิเศษทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเป็นที่เที่ยวในฮาโกดาเตะที่ห้ามพลาด ที่นี่สามารถชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามในแต่ละฤดูกาลและป้อมปราการรูปดาวอันเป็นเอกลักษณ์ของฮาโกดาเตะ
สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park) ใช้เวลาเดินจากป้าย Goryokaku-koen-mae ราว 10 นาที เมื่อใกล้ถึงสวน จะมองเห็นหอคอยโกเรียวคาคุ หอคอยสูงตระหง่านสีขาวทันที
จากจุดชมวิวที่สูงรวม 107 เมตร สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของฮาโกดาเตะ ไม่เพียงจะได้ชมป้อมปราการรูปดาวอันเป็นเอกลักษณ์ของโกเรียวคาคุเท่านั้น แต่ยังมองเห็นเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) และช่องแคบสึการุ (Tsugaru Strait) ด้วย สามารถชื่นชมทิวทัศน์ของสวนโกเรียวคาคุที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลเพื่อผ่อนคลายได้ด้วย

โกเรียวคาคุเป็นสถานที่ซึ่งเกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ซึ่งฮิจิกาตะ โทชิโซ รองผู้บัญชาการของกลุ่มชินเซ็นกุมิเสียชีวิตในสนามรบ บนจุดชมวิวชั้น 2 ของหอคอย มี History of Goryokaku พี้นที่จัดแสดงที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโกเรียวคาคุ และชมรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของฮิจิกาตะ โทชิโซด้วย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล ตลาดเช้าฮาโกดาเตะเป็นที่เที่ยวที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเช่นกัน ตลาดเช้าอยู่ห่างจากป้าย Hakodate Ekimae ราว 220 เมตร เดินเพียง 2 นาทีก็ถึง ตลาดเช้าฮาโกดาเตะเปิดตลอดทั้งปี ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนจะเปิดตั้งแต่ 6.00 น. ส่วนช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคมจะเปิดตั้งแต่ 5.00 น. (อย่างไรก็ตาม เวลาทำการของแต่ละร้านจะแตกต่างกัน) หากต้องการเพลิดเพลินกับวัตถุดิบสดใหม่ ควรรีบตื่นนอนแล้วมาที่นี่เป็นอันดับแรก

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะมีร้านค้าและร้านอาหารราว 250 ร้าน มีสินค้าหลากหลาย ทั้งร้านอาหารยอดฮิต ผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ รวมทั้งผลไม้และอาหารทะเลสดๆ ครบครัน ไม่ว่าจะมาลิ้มลองไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าอาหารทะเลสดๆ) สุดหรูในมื้อเช้า หรือจะมาเลือกซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูง ก็ต้องที่นี่เลย
ไคเซ็นด้งคือเมนูอร่อยที่ต้องลิ้มลองกัน สามารถเพลิดเพลินกับวัตถุดิบสุดฮิตในท้องถิ่นอย่างอุนิ (หอยเม่น) โฮตาเตะ (หอยเชลล์) และปูได้ในร้านอาหารหลายแห่ง แถมราคายังย่อมเยาด้วย เมื่อมาถึงตลาดเช้าขอแนะนำให้เดินดูให้ทั่วตลาดกันก่อน

โกดังอิฐแดงคานาโมริซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศชวนคิดถึง เป็นหนึ่งในที่เที่ยวเด่นดังของฮาโกดาเตะ
ภายในโกดังมีร้านค้าที่มีสินค้าต่างๆ ครบครัว รวมทั้งของอร่อยมากมาย แถมเดินทางมาสะดวก เดินจากป้าย Jujigai มาแค่ 5 นาที ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่จะผ่อนคลายของคนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นที่เที่ยวสุดมีเสน่ห์ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮาโกดาเตะต้องแวะชมกันด้วย
โกดังอิฐแดงคานาโมริแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ เบย์ฮาโกดาเตะ (Bay Hakodate), คาเนโมริโยบุตสึคัง (Kanemori Yobutsukan), ฮาโกดาเตะฮิสทรีพลาซ่า (Hakodate History Plaza) และคานาโมริฮอลล์ (Kanamori Hall)

ผู้ที่ต้องการถ่ายรูปสวยๆ ไปอวดในโซเชียล ขอแนะนำให้ถ่ายรูปคู่กับคลองใกล้โกดังอิฐสีแดงในโซน BAY Hakodate ในยามค่ำคืนแสงไฟจะช่วยเติมสีสันให้บริเวณนี้มีบรรยากาศสุดโรแมนติกและเต็มไปด้วยกลิ่นอายต่างแดน
ภายในโกดังมีร้านค้าที่มีเอกลักษณ์มากมาย ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ของว่าง ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านเสื้อผ้า ที่นี่ยังจำหน่ายขนมหวานสุดฮิตต่างๆ ของฮาโกดาเตะและสินค้าออริจินัลของโกดังอิฐแดงคานาโมริด้วย เหมาะซื้อไปเป็นของฝากจากฮาโกดาเตะเป็นอย่างยิ่ง

หากต้องการเพลิดเพลินกับธรรมชาติและทิวทัศน์ทะเล ให้นั่งรถรางสาย 2 จากป้าย Jujigai ไปยังป้าย Yachigashira เมื่อลงรถรางแล้ว ให้เดินราว 15 – 20 นาที ก็จะถึงแหลมทาจิมาจิ

ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตา แหลมทาจิมาจิตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขาฮาโกดาเตะสามารถมองเห็นชายฝั่งโอโมริจากหน้าผาสูงชันราว 30 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
แหลมแห่งนี้ล้อมรอบด้วยทะเลทั้ง 3 ด้าน สามารถมองเห็นช่องแคบสึการุได้ ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นคาบสมุทรชิโมคิตะในจังหวัดอาโอโมริที่อีกฝั่งของทะเล และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ได้

ฮาโกดาเตะเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองของญี่ปุ่นที่มีบริการรถราง โดยขบวนรถรางจะให้บริการทุกๆ 8 นาทีในช่วงกลางวัน จึงสะดวกและเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยว ถึงขับรถไม่ได้ก็สามารถตระเวนเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั้งหมดได้ง่ายๆ โดยรถราง แม้แต่ผู้มาเที่ยวครั้งแรกก็ไม่ต้องกลัวหลง ฮาโกดาเตะเหมาะมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี อย่าลืมมาลองนั่งรถรางสัมผัสบรรยากาศเมืองท่าที่มีเอกลักษณ์กัน