Gourmet

LUCKY PIERROT แฮมเบอร์เกอร์ที่คนท้องถิ่นขนานนามว่า เป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณ ได้รับความชื่นชอบจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ถึงขนาดได้รับเลือกให้เป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น
ติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับเบอร์เกอร์ท้องถิ่นจากนิตยสาร Nikkei PLUS 1 แฮมเบอร์เกอร์ของที่นี่คัดสรรวัตถุดิบดีเลิศที่สุดอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผักที่ปลูกในฮอกไกโด โดยจัดเสิร์ฟแฮมเบอร์เกอร์ปรุงสดใหม่ตามสั่ง

มีเมนูหลากหลาย ไม่ได้มีแค่เบอร์เกอร์มาตรฐานและเฟรนช์ฟรายส์ แต่ยังมีเบอร์เกอร์พิเศษและเมนูตามฤดูกาลด้วย
อย่าง Chinese Chicken Burger (เบอร์เกอร์ไก่สไตล์จีน) หนึ่งในเมนูชื่อดังที่สุดของร้าน ซึ่งว่ากันว่าจำหน่ายได้ปีละ 500,000 ชิ้น
นอกแฮมเบอร์เกอร์ LUCKY PIERROT ยังมีเมนูสไตล์ร้านอาหารครอบครัว อย่างข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ยากิโซบะ และคัตสึด้ง (ข้าวหน้าหมูทอด) ด้วย (* เมนูที่ให้บริการจะต่างกันในแต่ละสาขา) ทุกเมนูล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของฮาโกดาเตะได้แบบจัดเต็ม

การตกแต่งภายในร้านทันสมัย มีเอกลักษณ์ และสีสันสดใสสะดุดตา เป็นการออกแบบที่ผสานองค์ประกอบสมัยใหม่กับแบบดั้งเดิมเข้าด้วยกัน ทั่วทุกแห่งในร้านเต็มไปด้วยของตกแต่งและการตกแต่งภายในที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวา ด้วยเอกลักษณ์ของร้านที่ดูเป็นสากลจึงสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครต่างร้านอื่นๆ ไปสัมผัสบรรยากาศอบอุ่นสนุกสนาน และเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยกัน

ในภาพเป็นร้านสาขาหลักบริเวณอ่าว (Bay Area Head Shop)

LUCKY PIERROT Bay Area Head Shop
ที่ตั้ง: 23-18 Suehirocho, Hakodate（Google Map）
https://luckypierrot.jp/en/

หากอยากลิ้มรสอาหารโยโชคุ ซึ่งเป็นการผสานรสชาติญี่ปุ่นกับตะวันตกอย่างลงตัว ในบรรยากาศสุดหรู ขอแนะนำ GOTOKEN Restaurant SEKKATEI
Restaurant SEKKATEI (ร้านอาหารเซ็กกาเต) ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 1879 (ปีเมจิที่ 12) เป็นร้านอาหารเก่าแก่ในฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่ภายใน GOTOKEN (โกโทเค็น) อาคารเก่าแก่ในเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งสร้างเมื่อ 80 ปีก่อน อาคารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่มีรูปร่างของญี่ปุ่น จึงสัมผัสถึงบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยก่อนได้
สามารถเพลิดเพลินกับการผสานระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตกที่แสนโรแมนติก ลิ้มรสอาหารโยโชคุแท้ๆ ขณะที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศย้อนยุคภายในอาคาร

ที่นี่มีเมนูหลากหลาย ทั้งเมนูสุดฮิตอย่างแกงกะหรี่ญี่ปุนสไตล์อังกฤษ แกงกะหรี่ญี่ปุ่นหอยเชลล์ โดยเฉพาะแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นรสชาติดั้งเดิมอันโด่งดังที่เคยถวายขึ้นโต๊ะให้สมเด็จพระจักรพรรดินีและจักรพรรดินีทรงเสวย
ร้านอาหารใช้วัตถุดิบต่างๆ ของฮอกไกโดอย่างเนื้อไก่และหอยเชลล์

ไม่เพียงแค่จะได้ลิ้มรสเมนูอาหารโยโชคุแท้ๆ ของ GOTOKEN แต่ยังมีเมนูแบบคอร์สและเมนูแบบเซต รวมถึงอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารจานเดียวต่างๆ ด้วย
การตกแต่งภายในร้านมีเสน่ห์ ทำให้หวนคิดถึงวันวานราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในยุคก่อนขณะรับประทานอาหารกันด้วย

GOTOKEN Restaurant SEKKATEI
ที่ตั้ง: 4-5 Suehirocho, Hakodate, Hokkaido (Google Map)
https://gotoken1879.jp/restaurant/

คุณโยชิดะ เจ้าของร้านได้สืบทอดสูตรจากร้านซุปแกงกะหรี่ญี่ปุ่นในซัปโปโรที่เขาเคยทำงาน และมาเปิดร้านในฮาโกดาเตะเมื่อปี 2003

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นปรุงด้วยมือทุกขั้นตอน โดยใช้เครื่องปรุงรสและเครื่องเทศต่างๆ รังสรรค์รสชาติความอร่อยที่สดชื่น มีท็อปปิ้งให้เลือกมากกว่า 20 ชนิด เมนูสุดฮิตของร้านคือแกงกะหรี่ญี่ปุ่นน่องไก่นุ่ม การผสานกันระหว่างน่องไก่เนื้อนุ่มแสนอร่อยกับผักนานาชนิดในซุปแกงกะหรี่ญี่ปุ่นรสชาติเข้มสดชื่น กลายเป็นสุดยอดเมนูซึ่งมีทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสหลากหลายที่ผสานกันอย่างลงตัว

สามารถเลือกความเผ็ดของแกงกระหรี่ได้ถึง 11 ระดับ ผู้ชื่นชอบอาหารเผ็ดร้อนต้องมาท้าทายความเผ็ดที่ระดับสูงสุดกันดู

นอกจากวัตถุดิบและท็อปปิ้งมาตรฐาน ยังสามารถเลือกวัตถุดิบสุดพิเศษที่มีเอกลักษณ์ อย่างหอยเชลล์ ชีส ผงปลาปน เนื้อปลาป่น และหน่อไม้ฝรั่ง มีท็อปปิ้งวัตถุดิบตามฤดูกาลด้วยนะ รับรองว่าต้องประหลาดใจทุกครั้งที่แวะมารับประทานกันอย่างแน่นอน

การตกแต่งภายในร้านเป็นสไตล์โชวะ โดยมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ใช้ในโรงเรียนประถม สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่หวนให้คิดถึงและบรรยากาศย้อนยุคขณะรับประทานซุปแกงกะหรี่ญี่ปุ่นบนโต๊ะและเก้าอี้โต๊ะนักเรียนประถมของญี่ปุ่นกัน
　
Yoshida Shoten
ที่ตั้ง: 24-1 Shinkawacho, Hakodate (Google Map)
http://yoshidashowten.com/

ขอแนะนำคาเฟ่สุดพิเศษในฮาโกดาเตะ เช่น คาเฟ่บาร์ในชั้นบนสุดของโรงแรมที่มีวิวสวย คาเฟ่คู่กับร้านขนมหวานยอดฮิต และคาเฟ่สไตล์หรูที่สัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์
ที่สถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ (Former British Consulate of Hokodate) ซึ่งเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่างของเมืองฮาโกดาเตะมี TEA ROOM Victorian Rose ซึ่งสามารถดื่มด่ำกับชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ดั้งเดิมขณะที่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสวนกุหลาบด้านนอก

ในฮอกไกโดมีราเม็งรสชาติมาตรฐานต่างกันในแต่ละท้องถิ่น ถ้าพูดถึงหนึ่งในของอร่อยขึ้นชื่อที่สุดในฮาโกดาเตะก็ต้องเป็นราเม็งเกลือ Ajisai คือร้านราเม็งเก่าแก่ขึ้นชื่อที่สุดของฮาโกดาเตะ ซึ่งเปิดกิจการมากว่า 90 ปี

ราเม็งเกลือที่เป็นเมนูดังประจำร้านนี้ แม้หน้าตาจะดูเรียบๆ แต่มีกลิ่นหอมมากๆ และรสชาติสดชื่น เมื่อได้ชิมจะไม่ลืมรสชาติสุดประทับใจนี้เลย ซุปราเม็งเกลือใส เมื่อนำราเม็งเส้นตรงแบบพิเศษจุ๋มลงในซุป ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอมและความอร่อยเข้มข้น การผสานกันระหว่างรสชาติที่สดชื่นแต่เข้มข้นนี้ทำให้เกิดรสชาติซุปและเส้นราเม็งที่ยอดเยี่ยม สามารถรับประทานได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย

ทำเลของร้านก็สะดวกมากๆ นอกจากสาขาหลักโกเรียวคาคุแล้ว ยังสามารถลิ้มลองรสชาติความอร่อยของราเม็งของ Ajisai ได้ที่สาขาต่างๆ เช่น สถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate), Bay Bishoku Club ใกล้โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) ร้านนี้จึงเหมาะจะรวมอยู่ทริปเที่ยวมากๆ
Ajisai ยังติดอันดับต้นๆ จากการจัดอันดับของเว็บไซต์การท่องเที่ยวและอาหารชื่อดังต่างๆ จึงกล่าวได้ว่า Ajisai เป็นร้านราเม็งร้านดังที่สุดร้านหนึ่งของฮาโกดาเตะ

Hakodate Men Chubo Ajisai
ที่ตั้ง: 29-22 Goryokakucho, Hakodate, Hokkaido(Google Map)
https://ajisai.tv/

ซอฟต์ครีมเป็นของหวานหลักที่ชาวฮาโกดาเตะรับประทานกันประจำ ไม่ว่าสภาพอากาศแบบใด หลังแช่อ่างอาบน้ำ หลังเดินเล่น หรือหลังรับประทานอาหารร้อนที่บ้านในวันที่อากาศหนาวเย็น
ที่โมโตมาชิซึ่งรู้จักกันในชื่อ “ถนนซอฟต์ครีม” มีร้านที่ดำเนินกิจการโดยฟาร์มปศุสัตว์เองอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณอ่าว ไปลิ้มลองของกินอร่อยๆ ที่มีกลิ่นอายแบบฮาโกดาเตะ ซอฟต์ครีมรสชาติเข้มข้นที่ทำจากนมวัวสดๆ หมึกดำจากปลาหมึก สาหร่ายคอนบุ ไวน์ และอื่นๆ กัน

KANTARO (คันทาโร่) ร้านซูชิสายพานยอดฮิตในฮาโกดาเตะ เชฟซูชิจะปั้นซูชิโดยมีหน้าซูชิชิ้นโตปิดข้าวซูชิจนมิด ทุกสาขาใช้อาหารทะเลสดและข้าวของฮอกไกโด ซาซิมิทั้งหมดใช้อาหารทะเลที่จับได้ในวันนั้น จึงรับประกันเรื่องความสดและความอร่อย
เมนูก็มีมากมายหลากหลาย ราคาย่อมเยา ทั้งรสชาติและความคุ้มค่าก็สมบูรณ์แบบสุดๆ

เชฟซูชิจะปั้นซูชิหน้าเคาน์เตอร์สายพาน ลูกค้าสามารถสั่งซูชิให้เชฟปั้นโดยตรงได้ ในร้านมีเมนูภาษาต่างประเทศและเมนูจอสัมผัส ดังนั้นสามารถสั่งเมนูที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องกังวลแม้จะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้
เมื่อสั่งแล้วก็สามารถเพลิดเพลินกับเทคนิคการปั้นของเชฟและลิ้มรสซูชิที่สดใหม่แสนอร่อยได้เลย

เมนูของ KANTARO มีหลากหลายอย่างนิกิริซูชิ มากิโมโนะ (ข้าวห่อสาหร่าย) และกุนคัมมากิ (ซูชิห่อสาหร่าย รูปร่างคล้ายเรือรบ) บางสาขามีเมนูของทอดด้วย แต่ละสาขามีเมนูตามฤดูกาลสามารถเพลิดเพลินกับวัตถุดิบตามฤดูกาลที่เข้ากับฤดูนั้นๆ ได้
แต่ที่แนะนำที่สุดคือซูชิที่ใช้วัตถุดิบเฉพาะของฮอกไกโด
มีสาขาใกล้สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park) ที่เที่ยวยอดฮิตด้วย ดังนั้น มาเที่ยวสวนโกเรียวกากุก็แวะลิ้มลองกันได้เลย

KANTARO Goryokaku-koen-ten
ที่ตั้ง: 25-17 Goryokakucho, Hakodate(Google Map)
https://en.kantaro-hakodate.com/

ฮาโกดาเตะซึ่งมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์นี้ มีร้านอาหารชั้นนำหลายร้านซึ่งได้รับการแนะนำในมิชลินไกด์
สามารถเพลิดเพลินกับอาหารชั้นเลิศที่สุดตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นไปจนถึงอาหารตะวันตกซึ่งใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมย่างดี เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิม ร้านอาหารไคเซกิ และร้านสุกี้ยากี้ญี่ปุ่นซึ่งเดิมเป็นร้านขายเนื้อ

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Asaichi หรือ Hakodate Morning Market) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเชฟมืออาชีพ คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีร้านค้าราว 300 ร้านตั้งเรียงราย
ฮาโกดาเตะมีอาหารทะเล ของแห้ง ผลไม้ ขนมหวาน และอื่นๆ ครบทั้งหมด แถมยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ตกปลาหมึกชื่อดังทีมีคนต่อคิวยาวเสมอ

ฮาโกดาเตะเป็นเมืองแห่งนักชิมอาหาร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งรวมของอร่อยต่างๆ ตั้งแต่ซูชิและซาซิมิสดๆ ไปจนถึงอาหารอร่อยต่างๆ ที่ผสานความเป็นญี่ปุ่นกับตะวันตกเข้าด้วยกัน รวมถึงราเม็งยอดฮิต ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว หากมีร้านอาหารที่โดนใจ ลองเพิ่มในทริปเที่ยว และแวะไปลิ้มลองเมื่อมาเที่ยวฮาโกดาเตะกันนะ