4 ทางลาดขึ้นเนินแนะนำในฮาโกดาเตะ เมืองแห่งเนิน

ว่ากันว่า ฮาโกดาเตะมีเรื่องเล่ามากมายพอๆ กับจำนวนเนิน อันที่จริงเนินแต่ละแห่งในเมืองนี้มีบรรยากาศที่ต่างกัน

ฮาโกดาเตะมีเนินทั้งหมด 19 แห่ง แต่ละแห่งมีสถานที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ รวมทั้งบ้านญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมมากมายตั้งเรียงราย เช่น โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Orthodox Church), โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาจิ (Motomachi Roman Catholic Church), โบสถ์อีพิสโคพัลฮาโกดาเตะแห่งญี่ปุ่น (Hakodate Episcopal Church of Japan), สถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ (Former British Consulate of Hokodate), สถานกงสุลรัสเซียเก่า (Old Russian Consulate), ศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward) และวัดโคริวจิ (Koryuji Temple)

การเดินไปตามทางลาดขึ้นเนินของฮาโกดาเตะจะทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต

ทางลาดของฮาโกดาเตะทอดยาวจากเชิงเขาฮาโกดาเตะไปถึงทะเล แต่ละแห่งมีความยาวและความกว้างของถนนต่างกัน ทิวทัศน์ฝั่งเขากับฝั่งทะเลของแต่ละทางลาดก็ต่างกันด้วย นอกจากนี้ ในแต่ละตำแหน่งที่ยืนอยู่บนทางลาดเดียวกัน ทิวทัศน์ที่เห็นก็จะเปลี่ยนไป เช่น การมองยอดเขาจากตรงกลางเนิน หรือมองท่าเรือจากบนเนิน นี่คือเสน่ห์ของทางลาดขึ้นเนินต่างๆ ในฮาโกดาเตะ

ชื่อ “ฮาจิมังซากะ” นี้มีที่มาจากเรื่องที่ว่า บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังงู (Hakodate Hachimangu Shrine) หากเดินจากบริเวณอ่าวใกล้กับโกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) ขึ้นไปยังเขาฮาโกดาเตะแล้วมองย้อนกลับมาจะเห็นทิวทัศน์ของท้องฟ้าสีคราม ทะเลสีฟ้า และทางลาดที่ปูด้วยก้อนหิน นี่คือทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของฮาโกดาเตะที่สวยงามพอๆ กับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของฮาโกดาเตะ และเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ยอดนิยมที่สุดบนเนินเขาของฮาโกดาเตะด้วย

หากมองทอดสายตาไปไกลๆ จากเนินฮาจิมังซากะซึ่งเป็นทางลาดที่ปูด้วยก้อนหินที่มองเห็นท่าเรือ จะเห็นถนนกว้างทอดตรงไปถึงอ่าวฮาโกดาเตะ (Hakodate Bay) รวมทั้งอนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง มาชุมารุ (Seikan Ferry Memorial Ship Mashumaru) เมืองฮาโกดาเตะซึ่งทอดสมออยู่ที่นั่น

จากเนินโมโตอิซากะ (Motoi-Zaka Slope) ใกล้สวนโมโตมาจิ (Motomachi Park) ทอดยาวขนานไปกับเนินฮิโยริซากะ (Hiyori-Zaka Slope) เป็นทางเดินเล่นที่มีคาเฟ่สไตล์บ้านญี่ปุ่นโบราณโบราณที่มีเสน่ห์และอาคารที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศต่างแดนเรียงราย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สุดหรู ด้านหน้าโรงเรียนมัธยมปลายฮาโกดาเตะนิชิ (Hakodatenishi High School) บนเนินฮาจิมังซากะ เป็นจุดถ่ายรูปชื่อดังยอดฮิตซึ่งมักใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาและภาพยนตร์ต่างๆ ในฤดูหนาวจะมีการจัดงานประดับไฟอิลูมิเนชั่นฮาโกดาเตะ (Hakodate Illumination) ต้นไม้ตามทางจะเปล่งประกายระยิบระยับทำให้กับทางลาดที่ปูด้วยก้อนหินสว่างไสวช่วยเพิ่มความงดงามมากยิ่งขึ้น

เมื่อมองจากเชิงเขาลงไปที่เนินโมโตอิซากะ จะเห็นศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ สวนโมโตมาจิ สถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ และอาคารเก่าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโดสาขาฮาโกดาเตะ (Old Hakodate Branch Office of Hokkaido Government) ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางของฮาโกดาเตะ สมัยเมจิ (ปี 1868 – 1912) มีการกำหนดจุดเริ่มต้นในการวัดระยะทางของถนนที่ด้านล่างของเนิน จึงเป็นที่มาของชื่อเนิน (โมโตอิ แปลว่า รากฐาน) แห่งนี้

ในช่วงกลางของสมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) ที่เนินแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่างๆ นอกจากนี้ ในยุคการปกครองของแคว้นมัตสึมาเอะยังเป็นที่ตั้งคาเมดะฮันโช (สำนักงานปกครองแคว้นคาเมดะ) ส่วนในช่วงที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของรัฐบาลบาคุฟุก็เป็นที่ตั้งของฮาโกดาเตะบุเกียวโช (สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ) และในสมัยเมจิก็มีหน่วยงานบริหารทั้งหมด เช่น ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสาขาไคตะคุชิ, ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโดสาขาฮาโกดาเตะ และที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโดสาขาต่างๆ ด้วยเหตุนี้ เนินนี้จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกว่า เนินโอยาคุโชซากะ และเนินโกเท็นซากะด้วย

ในวันที่อากาศแจ่มใส เมื่อมองจากฝั่งทะเลขึ้นไปบนเนินโมโตอิซากะ จะเห็นอาคารของศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะซึ่งมีสีน้ำเงินเทากับสีเหลืองที่โดดเด่นตัดกับท้องฟ้าสีครามดูมีเสน่ห์มากๆ นอกจากนี้ เมื่อมองจากบนเนินลงมาจะได้ชมทิวทัศน์ของรถรางฮาโกดาเตะ ทางลาด ท้องฟ้าสีคราม และทะเลทั้งหมดที่สวยงามในคราวเดียวจนอดถ่ายรูปไม่ได้แน่นอน

ในบรรดาเนินทั้งหมด 19 แห่ง เนินไซไวซากะเป็นหนึ่งในเนินที่ยาวที่สุด มีทิวทัศน์อันงดงามที่มองเห็นทะเลทอดยาวจากบนเนินตรงไปยังท่าเรือซึ่งน่าประทับใจมากๆ อีกทั้งความโค้งของเนินยังสวยงามโดดเด่นด้วย

บนสุดของเนินไซไวซากะยาว 620 เมตรมีเบ็นเท็นคังฮาโกดาเตะ (Bentenkan Hakodate) อาคารที่พักและคาเฟ่เป็นจุดเริ่มต้น ส่วนที่เชิงเขาฮาโกดาเตะ่มีศาลเจ้ายามาโนะอุเอะไดจิงกู (Yamanoue Daijingu หรือ The Great Shrine of Yamanoue) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ เดิมทีศาลเจ้ายามาโนะอุเอะไดจิงกูตั้งอยู่จุดล่างสุดของเนิน กระทั่งปี 1879 (ปีเมจิที่ 12) ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการเรียกขานว่า ศาลเจ้าชินเมอิ ทำให้เนินแห่งนี้ได้รับการเรียกขานว่า เนินชินเมอิซากะ นอกจากนี้ ในปี 1875 (ปีเมจิที่ 8) มีการถมทะเลที่ด้านล่างของเนิน จึงตั้งชื่อบริเวณนี้ว่า ย่านไซไว หลังจากนั้น เนินแห่งนี้จึงมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เนินไซไวซากะ

ปัจจุบัน ศาลเจ้ายามาโนะอุเอะไดจิงกูตั้งอยู่บนสุดของเนินไซไวซากะ เมื่อเดินจากด้านล่างของเนินขึ้นไปยังเชิงเขา จะผ่านสถานกงสุลรัสเซียเก่า ทิวทัศน์มุมสูงจากที่นี่ซึ่งมองเห็นทางลาดขึ้นเนินตัดกับทะเลในแนวตั้งฉากนั้นน่าประทับใจยิ่ง เนินไซไวซากะเป็นที่รู้จักกันดีถึงความลาดชัน ซึ่งต้องใช้แรงกายแรงใจอย่างมากในการขึ้นไปถึงยอดเขา แต่ทิวทัศน์ที่มองเห็นจากศาลเจ้ายามาโนะอุเอะไดจิงกูนั้นงดงามน่าตะลึง ผู้คนที่มาเยือนต่างยอมรับและพูดกันว่า \”ไซไว (แปลว่า โชคดี) รออยู่ที่ปลายทางด้านบนสูง\”

ว่ากันว่า ชื่อของเนินไดซังซากะได้มาจากอักขระ “ไดซัง” ในตราประจำตระกูลของที่พักในสมัยก่อน ซึ่งสร้างตรงทางขึ้นเนินเพื่อให้ผู้คนจากชนบทที่เดินทางไปบุเกียวโช (สำนักงานปกครอง) ได้พักแรมกัน

เมื่อเดินจากด้านล่างของเนินขึ้นไป จะพบกับอาคารสไตล์ตะวันตกที่สะดุดตาตั้งเรียงราย เช่น อาคารไดซังซากะ (Daisanzaka Building) อาคารบริษัทเอบิซุชไก (Ebisu Shokai Co.,LTD.) และบ้านพักคาเมอิเก่า (Former Kamei Residence บ้านพักเก่าของประธานบริษัทคาเมอิ) หากขึ้นไปบนเนินจะพบโบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาจิ เมื่อเลยถนนมินาโตกาโอกะ (Minatogaoka Dori) ยังจะพบโบสถ์ต่างๆ เช่น โบสถ์อีพิสโคพัลฮาโกดาเตะแห่งญี่ปุ่น และโบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ บริเวณรอบๆ เนินไดซันซากะซึ่งมีโบสถ์และอาคารสไตล์ตะวันตกเรียงราย ทำให้บรรยากาศของทางลาดที่ปูด้วยก้อนหินนี้ดูหรูหรายิ่งขึ้น

ในปี 1987 เนินไดซันซากะได้รับการกำหนดให้เป็น 1 ใน “100 ถนนที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น” โดยกระทรวงที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค คมนาคม และการท่องเที่ยว ในฤดูใบไม้ร่วง ผลสีแดงสดและใบไม้สีแดงสวยของต้นนานากามาโดะย้อมเนินไดซังซากะให้เป็นสีแดง ความงดงามสดใสนี้ทำให้ทั้งเนินอบอวลไปด้วยบรรยากาศงดงามแบบโบราณที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก ราวกับแบ่งถนนที่ปูด้วยก้อนหินให้แยกไปอยู่อีกโลก

ฮาโกดาเตะในฮอกไกโดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งไม่เพียงเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น แต่ยังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติด้วย

หนึ่งในนั้นคือทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากเขาฮาโกดาเตะที่เลื่องชื่อ นอกจากนี้ เมื่อลงจากยอดเขาเพียงเล็กน้อยแล้วมองทางลาดที่ทอดยาวจากเชิงเขาฮาโกดาเตะไปยังท่าเรือก็วิเศษสุดๆ ฮาโกดาเตะมีทางลาดที่งดงามมากมาย ไม่ว่าจะมองจากด้านล่างของเนินขึ้นไปหรือมองจากด้านบนลงมา แต่ละแห่งก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างในแบบของตัวเอง เมื่อไปเที่ยวฮาโกดาเตะ ลองมองหาเนินที่ชื่นชอบดู